Custom Search

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา



อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีเนื้อที่ครอบคลุมท้องที่ ในเขต อำเภออ่าลึก อำเภอเขาพนม และ อำเภอ เมือง จังหวัดกระบี่ มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ลำธาร น้ำตก ถ้ำต่างๆ สัตว์ป่านานาชนิด และดอกไม้ป่าที่สวยงาม แหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น ภายในอุทยาน เช่น เขาพนมเบญจา น้ำตกห้วยโต้ น้ำตกห้วยสะเด ถ้ำเขาผึ้งเป็นต้น

ลักษณะภูมิประเทศ

เป็นเทือกเขาที่เขียวชอุ่ม สลับซับซ้อน มีหน้าผาสูงชัน ประกอบด้วย เขาพนมและเขาพนมเบญจา ซึ่งยอดเขาสูง สุด 1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้ มีลักษณะเป็นแนวยาวตลอด จากเหนือจรดใต้ เป็นแหล่ง กำเนิด แหล่งน้ำ สายสำคัญที่ใช้ในการอุปโภค และบริโภคของประชาชน ในตัวเมืองกระบี่ ได้แก่ คลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เทือกเขาเหล่านี้มีลักษณะ เป็นแนวยาวตลอด จากเหนือจรดใต้ ผ่านกลางอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่ง กำเนิดของต้นน้ำลำธาร หลายสาย เช่น คลองโตน คลองกระบี่น้อย คลองพอทาก ห้วยสะเด ห้วยส้าน ห้วยไผ่

ลักษณะภูมิอากาศ

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา อยู่ในเขต มรสุมเมืองร้อน ได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และ ลมมร สุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี ประกอบด้วย 2ฤดู ฤดูระหว่างเดือน มกราคม-เมษายน และฤดูฝน จะมีฝนตกชุกในเดือนมิถุนายน-ตุลาคม

พืชพรรณและสัตว์ป่า

เนื่องจากป่าเขาพนมเบญจา เป็นป่าดิบชื้น ฝนตกชุกเกือบตลอดปี จึงมีไม้ที่สำคัญหลายชนิด คือ ตะเคียนทอง ยาง ตะแบก หลุมพอ จำปา สะตอป่า มะไฟป่า พืชพื้นล่าง ได้แก่ ปาล์ม หวาย เข็มป่า และไผ่ชนิดต่างๆ สำหรับสัตว์ป่านั้น ยังชุกชุมอยู่มาก เพราะมีแหล่งน้ำ และอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าทั่วไป ได้แก่ สมเสร็จ เลียงผา หมูป่า เสือดำ เสือลายเมฆ หมีควาย กระจง ค่าง ชะนี ลิงเสน หมาไน กระรอก ชะมด นางอาย นกกางเขนดง นกเงือก นกคุ้ม ไก่ฟ้า และไก่ป่า

ข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

1. ห้ามเก็บทุกสิ่งทุกอย่างออกจากพื้นที่ยกเว้นขยะ

2. ห้ามส่งเสียงดังหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนผู้อื่น หรือสัตว์ป่า

3. ไม่ล่าสัตว์ป่า และไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในเขตอุทยาน

4. ห้านำยานพาหนะที่ส่งเสี่ยงดัง หรือมีควันดำเข้าไปในเขตอุทยาน

5. ห้ามก่อกองไฟในพื้นที่พักแรม

6. ห้ามติดประกาศ ขีดเขียน และแกะสลักใดๆ ลงบนที่ใดที่หนึ่ง

7. ห้ามทิ้งขยะมูลฝอย หรือสิ่งต่างๆ ในที่ที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น

8. ห้ามปฏิบัติกิจอันส่งผลให้เป็นการเสื่อมเสียศีลธรรม และวัฒนธรรมอันดีงาม

9. ห้ามนำภาชนะใส่อาหารที่ทำด้วยโฟมเข้ามาในอุทยานแห่งชาติ

กิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

- เดินป่า

- ศึกษาธรรมชาติ

- ถ่ายภาพ

- เล่นน้ำตก

- เที่ยวถ้ำ

- ดูนก


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่











อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

การเดินทาง

การเดินทางไปเกาะลันตาสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง ได้แก่

1.เดินทางจากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

2.เดินทางจากท่าเรือบ่อม่วง ที่ อ.คลองท่อม (บริเวณ กม.44-45.เพชรเกษม แยกไปอีก 14 กม.) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีอาณาบริเวณ ประมาณ 152 ตารางกิโลเมตร ภายในอุทยานแห่งนี้มีเกาะที่สำคัญๆ ดังนี้ เกาะลันตาใหญ่ เกาะตะเล็งเบ็ง หมู่เกาะห้า เกาะไหง เกาะรอกใน เกาะรอกนอก

เกาะลันตาเป็นเกาะที่ไม่ไกลจากชายฝั่งอันดามัน ชายฝั่งตะวันตกของภาคใต้ของไทย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเก็ต เสน่ห์และความงดงามของเกาะนี้อยู่ที่ ความขาวสะอาดของชายฝั่งที่มีความยาวประมาณ 20 กม. , ความใสของน้ำทะเลสีเขียวอ่อน และความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณไม้ป่าบนเกาะที่เขียวชอุ่มไปทั่วเกาะ

สภาพชายหาดโดยทั่วไปบนเกาะค่อนข้างร่มรื่นด้วยเงาไม้ ชายฝั่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาหลากหลายชนิด และสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมาก ชาวเลที่อาศัยอยู่บนเกาะโดยส่วนใหญ่จึงดำรงชีวิตด้วยการทำประมง สวนมะพร้าว สวนยาง เพาะปลูกพืชและผลไม้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาชีพเสริมในด้านการท่องเที่ยว การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างเรียบง่าย คงไว้ด้วยวัฒนธรรมและภาษา คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้จะรักษาความงดงามของธรรมชาติเพราะเขาชื่อว่าความอุดมสมบูรณ์บนเกาะเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้มากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกิจบนเกาะ บวกกับความเคร่งครัดในเรื่องการป้องกันพื้นที่ป่าที่อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานฯ

และเนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มมาเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการสร้างที่พักไว้เป็นจำนวนมากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งที่พักโดยส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การสร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติ

ในส่วนของอาหารจะมีร้านให้บริการทั้งอาหารตะวันตก และอาหารไทย ซึ่งผู้ที่เดินทางมาที่นี้ไม่ควรพลาดรับประทานอาหารทะเลสดๆ

สำหรับกิจกรรมบนเกาะนั้นมีมากมายที่สามารถสร้างความเพลิดเพลินให้แก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น การดำน้ำดูประการังรอบๆ เกาะ , การเดินป่าเที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าและน้ำตก , การเที่ยวชมความงามของถ้ำ , การเที่ยวชมสวนกล้วยไม้ ตลอดจนการล่องเรือเที่ยวชมรอบเกาะ ซึ่งจะมีเรือบริการพาสำรวจรอบเกาะ ตลอดจนการชมความงดงามของพระอาทิตย์ตก จนได้รับการขนานนาม ว่า "Sunset Island"

ช่วงที่เหมาะแก่การเดินทางไปเกาะลันตา คือ ช่วงเดือนตุลาคม -เมษายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม สำหรับฤดูฝนจะเริ่มในช่วงเดือนตุลาคม-ตุลาคม ซึ่งปริมาณที่นี้มีไม่มาก

สำหรับการเดินทางไปเที่ยวชมและพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้สามารถทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเดินทางจากกระบี่ หรือภูเก็ต ค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการพักผ่อนเที่ยวชมธรรมชาติชายฝั่งอันดามันอย่างเรียบง่าย

แนะนำเกาะต่างๆ ภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

-เกาะลันตาใหญ่ เป็นที่อยู่ของชาวเลจำนวนมาก ด้านหลังเกาะมีหาดทรายสวยงามที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่แหลมโตนดซึ่งอยู่ปลายสุดของเกาะลันตา บนเกาะมีที่พักเอกชนหลายแห่งโดยเฉพาะที่หาดคอกวางและหาดคลองดาว

-เกาะไหง มีหาดทรายสีขาว น้ำทะเลใสสะอาด รอบเกาะอุดมสมบูรณ์ด้วยปะการัง เดินทางได้สะดวกที่สุดจากท่าเรือปากเมง จ.ตรัง มีเรือโดยสารบริการ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

-เกาะตะเล็งเบ็ง เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพลงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย

-หมู่เกาะห้า มีลักษณะเป็นกลุ่มเกาะ 5 เกาะ เกาะห้าใหญ่จะมีทุ่งหญ้าอยู่บนสันเกาะ มีเกาะรูปร่างคล้ายใบเรือ เกาะที่มีน้ำลอดใต้เกาะ และมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่บางบริเวณ

-เกาะรอกใน มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทรายและแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า

-เกาะรอกนอก ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไพร การเดินทางไปเกาะรอก ต้องเช่าเรือที่ท่าเรือ อ.กันตัง จ.ตรัง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม.

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาเป็นหมู่เกาะอันประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ 25 เกาะในทะเลอันดามันนอกชายฝั่งจังหวัดกระบี่ จัดเป็นกลุ่มเกาะได้ 4 กลุ่มคือกลุ่มเกาะรอก กลุ่มเกาะห้า (เกาะตุกนลิมา) กลุ่มเกาะไหง และกลุ่มเกาะลันตาเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีความสวยงาม อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าชายหาด ป่าชายเลน แนวปะการังที่สมบูรณ์และหาดทรายรอบเกาะต่างๆหมู่เกาะแห่งนี้จึงเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของโลก ด้วยความสวยงามของแต่ละเกาะซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เกาะรอกเป็นผืนดินจุดสุดท้ายที่ถือเป็นหลักเขตประเทศไทยทางทิศตะวันตกมีทิวทัศน์บนชายหาดงดงาม ทรายขาวเม็ดทรายละเอียด น้ำทะเลใสมีแนวปะการังรอบเกาะ มีดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอยู่มากเป็นที่ที่พบปูเสฉวนมากที่สุดในเมืองไทย เกาะลันตาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ เหมาะเป็นที่พักผ่อนแบบสบายๆ หาดทรายสวยนี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อย ที่นักท่องทะเลจะได้สัมผัส หมู่เกาะลันตา

การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

จากกรุงเทพฯ เดินทางไปจังหวัดกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4206 ไปจนถึงบ้านหัวหิน เพื่อข้ามแพขนานยนต์ไปเกาะลันตาใหญ่ 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ระหว่างบ้านหัวหิน (บนฝั่ง) ไปเกาะลันตาน้อย และช่วงที่ 2 ระหว่างเกาะลันตาน้อย ไปเกาะลันตาใหญ่ จากนั้นขับรถต่อไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

จากจังหวัดกระบี่ สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาได้ดังนี้

-โดยสารรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ไปท่าเรือเจ้าฟ้า (บนฝั่ง)ซึ่งอยู่ภายในตัวจังหวัดกระบี่ เพื่อโดยสารเรือต่อไปยังท่าเรือศาลาด่าน (บนเกาะลันตาใหญ่) จากนั้นโดยสารรถไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หรือโดยสารเรือไปยังเกาะรอกหรือเกาะอื่นๆ ตามต้องการ

-โดยสารรถตู้จากตัวเมืองกระบี่ ไปท่าเรือบ้านบ่อม่วง (บนฝั่ง) เพื่อโดยสารเรือไปท่าเรือศาลาด่าน (บนเกาะลันตาใหญ่) จากนั้นโดยสารรถไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หรือโดยสารเรือไปยังเกาะรอกหรือเกาะอื่นๆ ตามต้องการ

จากจังหวัดตรังหรืออำเภอห้วยยอด โดยสารรถไปยังท่าเรือบ้านปากเม็ง อำเภอสิเกาจังหวัดตรัง แล้วจ้างเหมา/เช่าเรือ หรือโดยสารเรือไปยังเกาะไหง เกาะรอกหรือเกาะลันตาใหญ่ ก็ได้เช่นกัน

จากสนามบินใช้เวลา ประมาณ 2 ชม.

สามารถเดินทางได้ 2 วิธี คือ

1. เดินทางโดยรถตู้ ซึ่งจะต้อง ข้ามแพยนตร์

จากกระบี่-->ลันตาน้อย--->ลันตาใหญ่ ค่าโดยสาร 150 บาทต่อคน

2. เดินทางโดยเรื่อเฟอร์รี่จากกระบี่ ราคา 400 บาท ใช้เวลาเร็วกว่ารถตู้ เพราะออกจากกระบี่ไปเกาะลันตาใหญ่โดยตรง

กิจกรรมที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

ออกทะเลท่องอันดามัน

กิจกรรมชายหาด เดินเล่น เล่นน้ำทะเล

ดำน้ำ ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น

เดินป่าศึกษาธรรมชาติ

แค็มป์ปิ้ง

ประเพณีที่น่าสนใจของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

เทศกาลลานตา ลันตา

ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

เกาะลันตา

- ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 15 พฤศจิกายน ของทุกปี

- เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 พฤษภาคม ของทุกปี

ค่าใช้จ่ายสำหรับการมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

ค่ารถตู้จากสนามบินกระบี่ + ข้ามแพยนตร์ไปเกาะลันตา 150 บาทต่อคน

ค่าเรือเฟอร์รี่จากกระบี่ตรงไปเกาะลันตา 400 บาทต่อคน

คำแนะนำในการท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติฯมีที่พัก และลานกางเต็นท์ไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่บริเวณที่ทำการฯบนเกาะลันตาใหญ่ ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ บนเกาะรอก และบนเกาะไหง

ในช่วงฤดูฝน เป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจะมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ในช่วงนี้จึงไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวจึงได้มีกำหนดการเปิด - ปิด ฤดูการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ บริเวณหมู่เกาะรอกกองหินแดง และกองหินม่วง ตามที่แจ้งไว้ในหัวข้อฤดูกาลท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา โทร.0 7562 9018 - 9

จองที่พักในอุทยานฯ โทร.0 2562 0760


อ่าวนาง หมู่เกาะพีพี/ ท่องเที่ยวทะเล ไทยคึกคัก































อ่าวนาง จังหวัดกระบี่

อ่าวนาง จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกที่หนึ่งของจังหวัดกระบี่ ที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่าง ประเทศ มักจะเดินทางมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ อาบแดด หรือเดินเล่นบริเวณชายหาด นอกจากนี้ตอนเช้า อากาศ บริเวณนี้ค่อนข้างสดชื่น และบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยว จะออกมาวิ่ง เพื่อออกกำลังกาย เนื่องจากมีหาดทราย ที่ขาว สะอาดทอดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เหมาะแก่การเดิน หรือวิ่งออกกำลังกายเพื่อ รับอากาศบริสุทธิ์ใน ยามเช้า เข้าสู่ร่างกาย ประกอบกับน้ำทะเลที่สวยใส และทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นที่น่าหลงไหลเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยว สามารถที่จะขึ้นไปชื่นชมทิวทัศน์ในมุมสูงได้ โดยมีทางเดินขึ้น เขาเพื่อที่จะขึ้นไปชื่น ชมทิวทัศน์จาก ข้างบน หรือถ่ายภาพเพื่อเก็บความทรงจำและความประทับใจ กลับบ้านโดยไม่ทำทายธรรมชาติ นอกจากนี้ อ่าวนาง ยัง เป็นท่าเทียบเรือสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะจะเดินทางไป ท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ ในจังหวัดกระบี่ อีกหลาย เกาะ เช่น เกาะปอดะ ทะเลแหวก หาดไร่เลย์ อ่าวต้นไทร เกาะทับ เกาะหม้อ เป็นต้น

ข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

1. ไม่ทิ้งขยะมูลฝอย และสิ่งปฏิกูล เศษอาหารลงในทะเลและชายหาด

2. ไม่ขับถ่ายลงในทะเลหรือชายหาด

3. ไม่ทำรายสัตว์ เช่น ลิง นก ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ ชายหาดและบนเขา

กิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

- เดินเล่น หรือวิ่งออกกำลังกาย

- อาบแดด

- เล่นน้ำทะเล

- ถ่ายภาพ

- ปั่นจักรยาน

- ชมวิวทิวทัศน์

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว อ่าวนาง

ชายหาดอ่าวนาง เป็นหาดทรายชายฝั่งทอดตัวยาว มีถนนเลียบชายหาดห่างจากหาดนพรัตน์ธาราประมาณ 6กม.ภูมิทัศน์โดยรอบสวยงามด้วยเขาหินปูนสูงตระหง่านมีถ้ำพระนางซึ้งมีหินงอกหินย้อย สลับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ชายหาดหลายแห่งที่สวยงามเช่นหาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดน้ำเมาทั้ง3หาดนี้ต้องเดินทางโดยเรือเนื่องจากมีภูเขากั้นเมื่อมองไปในทะเลเห็นทิวทัศน์ของหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 80เกาะที่มีเอกลักษณ์ต่างๆกัน มีร้านค้า ที่พัก บริษัทนำเที่ยวเป็นจุดชุมนุมเรือท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของกระบี่สามารถหาเช่าเรือไปยังสถานที่ต่างๆเช่น หาดไร่เลย์ถ้ำพระนางและเกาะทั้งหลายในทะเลกระบี่

การเดินทางไปยังอ่าวนาง

จากตัวเมืองมีรถสองแถวไปยังอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

กิจกรรมที่น่าสนใจในอ่าวนาง

ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะยามอาทิตย์ตก

อาบแดด เดินเล่น สนุกกับการเล่นน้ำทะเล

ออกเรือท่องทะเล ดำน้ำ ชมเกาะในอันดามัน

ลอยเรือตกปลา



หาดนพรัตน์ธาร/ท่องเที่ยวทะเล ไทยคึกคัก







































หาดนพรัตน์ธาร

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 18 กิ โลเมตร มีชายหาดทอดยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า "หาดคลองแห้ง" เนื่องจากในช่วง เวลาน้ำลง น้ำคลองที่ไหลลงมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็น หาดทรายยาวเหยียด ทอดลงไปในทะเล บรร จบกับเกาะเขาปากคลอง และเมื่อในปี พ.ศ. 2503 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ สมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี ได้แวะมาพักผ่อน และประทับใจในความงดงามของชายหาดและธรรมชาติ จึงได้ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ ว่า "หาดนพ รัตน์ธารา" บริเวณชายหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ มีต้นสนขึ้นเป็นทิวแถวสวยงาม ให้ร่ม เงาให้กับนักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

ข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

1. ไม่ทิ้งขยะมูลฝอยลงบนชายหาด ทางเดิน และในทะเล

2. ไม่เก็บเปลือกหอย ก้อนหินบนชายหาดกลับบ้าน

กิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

- ชมทิวทัศน์

- ถ่ายภาพ

- วิ่งออกกำลังกาย

- ปั่นจักรยาน


Custom Search